เคล็ดลับวิธี !! ดีท็อกซ์ผมเสีย

การดีท็อกเป็นที่รู้กจักกันเป็นอย่างดีในการดีท๊อกร่างกายเพราะเป็นการช่วยร่างสารพิษในร่างการยออก ทำให้ร่างการเราดูมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบหล่ะค่ะว่า การดีท็อกนั้นสามารถใช้กับเส้นผมได้ นั่นคือการ ดีท็อกซ์ผมเสีย  ก็เลยได้นำเอา เคล็ดลับวิธี !! ดีท็อกซ์ผมเสีย ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ก็เป็นการนำเอาของเสียออกเช่นเดียวกับดีท๊อกร่างกายนั่นแหละค่ะ เพียงแค่เราย้ายมาทำเป็น ดีท็อกซ์ผมเสีย เท่านั้นเองค่ะ เพราะว่าเส้นผมก็เป็นสิ่งสำคัญที่สาวๆ จะต้องใส่ใจ แล้วปัญหาผมเสียก็จะเกิดขึ้นได้บ่อยมากๆ ซึ่งเราก็หลีกเรียงไม่ค่อยจะได้ด้วยซิน่า แต่ว่าเราก็สามารถดูแลรักษาได้จริงไหมหล่ะค่ะ แล้วเคล็ดลับวิธีดีท็อกซ์ผมเสียที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ได้เอามาแนะนำในวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับเพื่อเส้นผมสวยที่สาวๆ ไม่ควรพลาดเลยนะค่ะ ถ้าเช่นนั้นแล้วเราก็ไปดูเคล็ดลับวิธีดีท็อกซ์ผมเสียที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) นำมาฝากกันเลยดีกว่านะค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไรค่ะ

ดีท็อกซ์ผมเสีย

10 วิธี ดีท็อกซ์ผมเสีย

1. เพิ่มพลังด้วยวิตามิน
เส้นผมต้องการวิตามินอย่าง เอ อี และบี 5 รวมทั้งเคราติน และเชียบัตเตอร์ในการขจัดสารตกค้าง เพื่อความเงางามด้วยการล็อค และความเป็นประกายของเส้นผมไว้ทำให้ผมดูสุขภาพดีในบัดดลถือเป็นการรีเฟรชและเพิ่มพลังให้เส้นผม ขอแนะนำผู้ช่วยขวดจิ๋วที่มาในรูปของสเปรย์ซึ่งจะช่วยขจัดสารตกค้างที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป Richard ward’s vitamin rush shine spray

2 .มาสก์ผมกันหน่อย
ถ้าอยากให้ผมสุขภาพสมบูรณ์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้สารอาหารแก่เส้นผม และหนังศีรษะ การมาสก์ผมคือทรีตเม้นท์ที่เห็นผลที่สด ควรหมักผมสัปดาห์จะหนึ่งครั้ง ตอนที่ผมยังขึ้นอยู่ด้วยการนวดเนื้อครีมให้ซึมซาบทั่วศีรษะแล้วใส่หมวกคลุมอาบน้ำทับไว้ สำหรับมาสก์หลอดข้างๆ ที่เห็นนี้สามารถทิ้งไว้ได้นานถึง 12 ชั่วโมง ขึ้นกับว่าเส้นผมคุณเยินขนาดไหน จากนั้นก็ล้างออก สระผม ตามด้วยครีมนวด เป็นอันเสร็จ ง่ายๆ แค่นี้เอง!

3. เซย์โนกับสารซัลเฟต
เราแน่ใจว่าคุณต้องรู้สึกคุ้นๆ กับคำนี้พอประมาณ อะไรทำนองซัลเฟต ซัลฟูริก แอซิด แล้วตกลงมันคืออะไรล่ะ? พูดง่ายๆ ก็คือ ซัลเฟตทำให้แชมพูมีฟองเพิ่มขึ้น และในเมื่อเรามักจะเชื่อมโยงฟองที่มากล้นกับความสะอาด พอใช้แชมพูที่ไม่ค่อยมีฟองก็รู้สึกแม่งๆ เหมือนมันไม่สะอาด ซึ่งนั่นไม่จริงเลย แชมพูที่ไม่มีซัลเฟตจะทำให้หนังศีรษะและเส้นผมระคายเคืองน้อยลง แถมสรรพคุณเรื่องความสะอาดก็ไม่เป็นรองใครด้วย

4. ใช้ความร้อนพอประมาณ
ไม่ใช่หลังออกกำลังกายเท่านั้นที่ร่างกายต้องคูลดาวน์ ถ้าทำถูกวิธีการจัดทรงด้วยความร้อนสามารถทำให้เส้นผมที่อ้วนเรียบได้และผมตรงหยิกได้ แต่พวกเราส่วนมาก มักใช้อุณหภูมิในการทำผมสูงเกิน 200 องศาเซลเซียส ซึ่งนั่นทำลายเส้นผม จำไว้ว่ายิ่งผมคุณเส้นเล็กเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องใช้ความร้อนในการจัดทรงผมต่ำขึ้นเท่านั้น

5. ผ่อนคลาย
การนวดศีรษะทำให้ผู้หญิงเราผ่อนคลายได้ อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ใครจะมีเงินไปนวดบ่อยๆ ล่ะ เราก็เลยไปขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องการนวดให้มาบอกวิธีหน่อย ซึ่งก็ไม่ยากใช้ปลายนิ้วกลางและนิ้วนางสำหรับจุดที่ต้องการกดหนักๆ ส่วนบริเวณขมับนวดวนเป็นวงกลมเบาๆ รวมทั้งท้ายทอยและต้นคอด้วย พยายามนวดให้หนังศีรษะขยับไม่ใช่ขยับแต่ปลายนิ้วเพื่อให้นวดได้ลึกขึ้น

6. แปรงธรรมชาติดีที่สุด
ถ้าคุณชอบแปรงผมก็ขอแนะนำให้ลงทุนซื้อแปรงขนธรรมชาติดีๆ สักอันเพราะมันทำอันตรายต่อเส้นผมน้อยกว่าแปรงแบบอื่นอีกทั้งยังช่วยกระตุ้นโคนผม ช่วยให้น้ำมันบนหนังศีรษะกระจายทั่วอีกด้วย สำหรับชาวhair เราชอบ Shu uemura art of hair natural round brush

7. กินผัก
ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้หม่ำผักเยอะๆ เช่น บร็อคโคลี่ ผักโขมและกะหล่ำปลีที่อุดมด้วยวิตามินเอ ซี อี และแคลเซียม ซึ่งช่วยระบบการย่อยและการกำจัดสารพิษรวมทั้งยังมีบทบาทสำคัญสำหรับเส้นผมที่แข็งแรงและสุขภาพดี

8. เลิกใช้สเปรย์
นี่อาจจะเป็นข้อที่ยากสุดสำหรับ 10 วิธีดีท็อกซ์ของเรา แต่เราขอให้คุณอยู่ห่างๆ กระป๋องสเปรย์แค่เดือนเดียว แล้วใช้สองมือจัดทรงปั้นๆ ลูบๆ ให้ได้ทรงหรือมีวอลลุ่มอย่างที่ต้องการ แล้วก็ใช้กิ๊บดำตัวเล็กๆ ติดให้เข้าที่

9. ตัดผม
เพื่อให้เส้นผมอยู่ในสภาพที่ดีก็ต้องหมั่นเล็มผมเป็นประจำเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผมแตกปลายและรักษาความสมบูรณ์ของเส้นผมไว้ อย่าลืมว่ายิ่งผมยาวเท่าไหร่ ผมก็มีโอกาสถูกทำลายมากขึ้นเท่านั้น

10. ชาตำแย
เอ้า!-เชียส์ ดื่มที่ว่าคือดื่มชาเขียวเจโลบอกว่าเธอดื่มชาเขียวมาเป็นปีแล้ว ส่วน Nettel tea (ชาตำแย) ที่กำลังฮิตนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการบอกว่าพืชชนิดนี้พบในแชมพูแบบดีท็อกซ์อยู่แล้ว พอนำมาดื่มก็เลยทำความสะอาดร่างกาย ผิวและผม ด้วยการขจัดสารพิษส่วนเกินออกมาแถมยังช่วยปกป้องอันตรายจากอนุมูลอิสระ ดังนั้น หันมาดื่มชาชนิดนี้กันเถอะ เพื่อให้เส้นผมที่แห้งกร้านกลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลวิธีดูแลเส้นผมจาก woman’s ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

 

ใส่ความเห็น